ฟันปลอม

ฟันปลอม

ไม่ว่าวัยใดอาจมีการใส่ฟันปลอมได้ทุกเมื่อ เช่น บางคนฟันหักบางซี่ หรือบางคนฟันหักหรือสูญเสียฟันหมดปากเป็นต้น ซึ่งถ้าไม่มีฟันปลอมอาจทำใช้ชีวิตของผู้คนขาดความมั่นใจได้ ฟันปลอมจึงมีส่วนช่วยเสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจได้ดีขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่สูญเสียฟันหน้า จะช่วยได้มาก นอกจากนี้ฟันปลอมยังช่วยให้ความสามารถในการบดเคี้ยวทำงานได้ดีขึ้น เป็นการช่วยกระเพาะอาหารที่ไม่ต้องทำงานหนักเกินไป รวมถึงการช่วยป้องกันฟันที่อยู่ข้างเคียงล้มเอียงหรือฟันคู่สบยื่นยาวเข้าหาช่องว่างที่สูญเสียฟันไปได้อีกด้วย

 

ขึ้นชื่อว่าฟันปลอมแล้ว ก็ต้องถูกทำขึ้นมาเพื่อทดแทนฟันธรรมชาติ และเป็นการช่วยให้ผู้ที่สูญเสียฟันมั่นใจในรอยยิ้มและมีการเคี้ยวอาหารที่มีประสิทธิภาพ

 

มาทำความรู้จักฟันปลอมกัน

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักฟันปลอมกันก่อนว่ามีกี่ประเภท ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็นฟันปลอมชนิดถอดได้ และฟันปลอมแบบติดแน่น ซึ่งฟันปลอมแบบถอดได้เป็นฟันปลอมที่ทำสำหรับคนที่ยังมีฟันแท้เหลืออยู่ เป็นการใส่ฟันปลอมเพียงบางส่วน สามารถถอดออกมาล้างทำความสะอาดได้  ซึ่งฟันปลอมสามารถแบ่งได้เป็น ฟันปลอมโครงโลหะ ฟันปลอมโครงอะคริลิกและฟันปลอมแบบถอดได้ทั้งปาก

 

ข้อดีและข้อเสียของฟันปลอมแบบถอดได้

ข้อดีของฟันปลอมชนิดนี้คือสามารถทำความสะอาดได้ง่าย ช่วยในการบดเคี้ยวอาหารได้ หากมีการใส่ฟันหลายซี่หรือทั้งปากราคาจะถูกกว่าฟันปลอมแบบติดแน่น ส่วนข้อเสียผู้ใส่จะเกิดความรำคาญในขณะพูดหรือในการเคี้ยวอาหาร  ประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวจะต่ำกว่าฟันปลอมแบบอื่น ไม่มีความสวยงามเนื่องจากอาจมองเห็นตะขอที่ใช้เกี่ยวได้

 

ข้อดีและข้อเสียของฟันปลอมแบบติดแน่น

ฟันปลอมแบบติดแน่นเป็นฟันปลอมแบบถาวรที่ยึดแน่นในช่องปาก ต้องอาศัยฟันแท้ที่อยู่ข้างเคียงกับช่องว่างเป็นหลักในการยึดฟันปลอม ไม่สามารถถอดออกมาทำความสะอาดภายนอกช่องปากได้ แบ่งเป็นเดือยฟัน ครอบฟันและสะพานฟัน

ข้อดีของฟันปลอมแบบติดแน่นจะมีลักษณะและขนาดที่เหมือนกับฟันจริงมากกว่าแบบถอดได้ ทำให้รู้สึกดีว่าไม่มีเหงือกปลอมหรือตะขอมารบกวน ประสิทธิภาพการใช้งานดีมีความแข็งแรงและสวยงาม ส่วนข้อเสียคือจะต้องมีการกรอฟันข้างเคียงทำให้สูญเสียเนื้อฟัน และไม่สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ หากแปรงไม่ดีอาจทำให้ฟันข้างเคียงผุและเป็นโรคเหงือกได้ รวมถึงฟันปลอมแบบนี้จะมีราคาที่สูงกว่าฟันปลอมแบบถอดได้

 

ไม่ว่าฟันปลอมแบบไหนก็ล้วนมีข้อดีและข้อเสีย จึงควรได้รับคำแนะนำจากทันตแพทย์เพื่อให้ได้ฟันปลอมที่เหมาะสมเฉพาะของแต่ละคนที่สุด

 

หลักในการดูแลฟันปลอมทั้งสองชนิด

ถึงแม้จะเป็นฟันปลอมแต่เรื่องการดูแลรักษาทำความสะอาดก็เป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้เลย วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการดูแลฟันปลอมแต่ละประเภทกัน

 

การดูแลฟันปลอมชนิดถอดได้

 

หลังรับประทานอาหารควรถอดฟันปลอมออกมาทำความสะอาดทุกครั้ง โดยการใช้แปรงสีฟันร่วมกับสบู่หรือยาสีฟันแปรงฟันปลอมให้ทั่วทุกซี่และบริเวณฐานของฟันปลอม เสร็จแล้วล้างน้ำให้สะอาด แช่น้ำเปล่าไว้ ควรแปรงฟันปลอมทุกวันจะช่วยกำจัดเศษอาหารและคราบแบคทีเรียได้ และยังป้องกันการเกิดคราบ ซึ่งน้ำยาทำความสะอาดอาจช่วยได้บ้าง แต่ไม่เหมือนกับการแปรงทุกวันได้  หากเผลอทำฟันปลอมตกอาจเกิดการหักได้เพราะฟันปลอมมีความบอบบาง ควรยืนบนผ้าขนหนูเวลาหล่นจะช่วยป้องกันได้ในระดับหนึ่ง อย่าใช้น้ำร้อนในการแช่ฟันปลอมเพราะจำทำให้บิดได้และไม่ควรวางไว้ข้างนอกให้โดนอากาศ ควรแช่ในน้ำยาแช่ฟันหรือในน้ำเปล่า ก่อนสวมฟันปลอมควรแปรงเหงือก ลิ้น และเพดานปากทุกเช้า เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและเป็นการกำจัดคราบแบคทีเรียด้วย หากเกิดกรณีฟันปลอมหัก บิ่น แตกหรือหลวม ห้ามปรับเอง เพราะจะทำให้ฟันปลอมเสียหายมากขึ้น ควรมาพบทันตแพทย์

 

 

การดูแลฟันปลอมชนิดติดแน่น

ควรแปรงบริเวณคอฟันที่ถูกครอบร่วมกับการใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ ในส่วนของสะพานฟันต้องทำความสะอาดใต้ฟันปลอมด้วยการใช้ไหมขัดฟัน หรือ Superfloss คล้องใต้ฟันปลอม

 

การใส่ฟันปลอมต้องได้รับการดูแลทำความสะอาดอย่างทั่วถึง เพราะฟันปลอมเป็นเหตุให้มีเศษอาหารตกค้างได้มาก หลังใส่ฟันปลอมแล้วควรมาพบทันตแพทย์เป็นระยะอย่างน้อยทุก 6 เดือน เพื่อดูสุขภาพของเหงือกและฟันว่ามีฟันผุหรือเหงือกอักเสบหรือไม่ หรือต้องเสริมฐานฟันปลอมในบริเวณที่เหงือกยุบตัวหรือเปล่า หรือบางรายอาจต้องเปลี่ยนฟันปลอมใหม่ เนื่องจากฟันปลอมเดิมหมดอายุการใช้งาน

 

สำหรับคนที่ยังไม่เคยใส่ฟันปลอมนั้นนับว่าโชคดีในระดับหนึ่งที่ไม่ต้องทนกับความรำคาญที่มีฟันปลอมอยู่ในปาก และไม่ต้องเสียเงินในการทำฟันปลอม เพราะจุดใหญ่ของการที่ไม่ต้องใส่ฟันปลอมก็คือการดูแลทำความสะอาดฟันของตนเป็นอย่างดีในทุก ๆ วัน และพบทันตแพทย์อยู่เสมอ เพื่อให้มีฟันและเหงือกแข็งแรงไปตลอดชีวิต

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *